ตีแผ่ คำยอดฮิต “ท่อน้ำเลี้ยง”

ตีแผ่ คำยอดฮิต “ท่อน้ำเลี้ยง”

ท่อน้ำเลี้ยง คำนี้เกิดตั้งแต่การชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 ที่มีชาวบ้านมาชุมนุมนั่นเพราะมีบุคคลสนับสนุน หรือมีกลุ่มคนชักใยอยู่ แล้วถูกสร้างให้เห็นภาพมาโดยตลอดว่าการชุมนุมแบบนี้ มันเกิดขึ้นด้วยตัวเองไม่ได้

ดังนั้น พอมองภาพการออกมาประท้วงของนิสิต-นักศึกษาในปัจจุบัน จึงมักถูกโยงด้วยเหตุผลที่ไม่ต่างไปจากเดิม นั่นเพราะว่ารัฐบาล มักจะมีความเชื่อว่าการชุมนุมเกิดขึ้นด้วยตนเองไม่ได้ รัฐบาลเชื่อว่าทุกครั้งที่มีการชุมนุมต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง ต้องมีคนชักใย หรือเรียกว่า master mind

พูดคุยกับ ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในประเด็น มุมมองต่อท่อน้ำเลี้ยงในบริบทการเมืองยุคก่อนกับยุคปัจจุบัน

  • จุดที่ทำให้รัฐบาลไทยเชื่อว่าการออกมาประท้วงของคนรุ่นใหม่มีท่อน้ำเลี้ยงอยู่เบื้องหลัง คืออะไร?

“ผมว่ารัฐบาลลืมเรื่องหนึ่ง คือ ลืมความแตกต่างของ generation แปลว่าใน generation ใหม่ การชุมนุมมันไม่เหมือนเก่า และเห็นชัดว่ามันเป็นลักษณะแนวราบชัดเจนจนมันไม่มีแกนนำ เรียกว่า leader dead แปลว่าคนที่ออกมาร่วมชุมมนุม เขามาด้วย common sense ที่รู้สึกว่าเรื่องที่เจอมันมีความรู้สึกมันคล้ายคลึงกัน”

พอในไทย นับตั้งแต่การชุมนุมเสื้อแดงปี 2553 มันแทบไม่เคยมีการชุมนุมใหญ่ จนกระทั่งปลายปี 2019 – ต้นปี2020 เริ่มมี flash mob เกิดขึ้นเป็นระลอก ๆ ผู้คนก็อาจจะรู้สึกว่ามันมีเงื่อนไขทางการเมืองเข้าไปอยู่

ผมเรียกการชุมนุมที่เกิดครั้งนี้ว่า second flash mob เพราะมันมาระลอกที่สองหลังจากโควิดมาคั่น พอเราเห็นแบบนี้มันก็กลับมาด้วยชุดความคิดเดิม คือมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่เชื่อว่าเด็กที่เขาออกมาชุมนุมเขามาด้วยประเด็นที่เป็นอารมณ์ของความรู้สึกคนรุ่นใหม่จริง ๆ

  • ทำไมเขาถึงมองแบบนั้น?

มันมีปัญหาสองด้านใหญ่ ๆ คือ ปัญหาเรื่อง generation สองปัญหา Perception เป็นลักษณะการคิดอยู่กับที่ว่า การชมุนุมประท้วงครั้งนี้ต้องมีเบื้องหลัง ต้องมี master mind มาคอยจัดการ

ตราบใดที่รัฐบาลยังมีชุดวิธีคิดเก่าแบบนี้ประกอบกับอยู่กับคน generation เก่า วิธีคิดแบบนี้จะไม่ไปไหน ในขณะที่ของจริงบนถนน มันไม่ใช่ มันเป็นอีก generation หนึ่ง วิธีทำ mob ก็อีกคนกลุ่มหนึ่ง ปัญหาเหลืออย่างเดียว คือ รัฐบาล ซึ่งเป็น old generation ทั้งหลาย ที่มีอำนาจ สามารถทำความเข้าใจกับความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันได้ไหม

  • แต่สิ่งที่เราเห็นตอนนี้ในปัจจุบัน ดูเหมือน “ไม่สามารถ” ทำความเข้าใจได้ ข้อจำกัดคือ อะไร

1. คน generation เก่าที่ไม่สามารถปรับทัศนะได้ ไม่สามารถปรับ Perception ได้ แล้วอยู่ใน generation ที่เป็นโลกเก่า จะมีชุดวิธีคิดเป็น fixed idea

2.ขณะเดียวกันถ้าคน generation ใหม่อยู่กับชุดความคิดที่เป็นแบบเก่า มันก็ไม่ต่างกัน แปลว่าทุกวันนี้มันมีปัญหาเรื่องเจน และในปัญหาเรื่องเจนมันมีปัญหาเรื่อง Perception ที่เขายอมรับหรือไม่ว่าโลกมันเปลี่ยน

  • การให้เปลี่ยนมาทำความเข้าใจมันดูยากมาก แปลว่ากลุ่มก้อนนี้มันใหญ่มากหรือเปล่า?

มันอาจจะไม่ใหญ่ในความหมาย แต่มัน “มีอำนาจ” เพราะเป็นรัฐบาล พูดง่าย ๆ วันนี้มันคือ structure ระหว่างเสรีนิยมกับอนุรักษ์นิยมสู้กันอย่างชัดเจน และมันไม่ใช่บริบทแบบในศตวรรษที่ 16 17

แต่มันกำลังจะเป็นบริบทแบบที่ว่า เสรีนิยมกับอนุรักษ์นิยม ในสังคมไทยที่สู้กันอยู่นี้ มันอยู่ในศตวรรษที่ 21 แปลว่ามมันมีชุดความคิดใหม่ ๆ มันมีเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามา💡นั่นแปลว่า generation เก่าที่มันคิดแบบเก่ามันก็ยิ่งจะถูกทิ้ง ในขณะที่ generation ใหม่ที่คิดไปได้ใหม่ เครื่องไม้เครื่องมือพวกนี้มันทำให้ไปไกลมากขึ้น อีกโจทย์หนึ่งของทุกวันนี้มันมี gape ทางการเมืองและทางความคิดมันใหญ่มาก จึงไม่แปลกเลยที่คน generation เก่าจะมองว่าคน generation ใหม่จะมีท่อน้ำเลี้ยงอยู่เบื้องหลัง

  • มันมีกลุ่มไหนไหมที่คิดว่า คน generation ใหม่ มีคนกลุ่มไหนอยู่เบื้องหลังอย่างชัดเจนเลยไหม เนื่องจากทุกวันนี้เรายังไม่เห็นเลย เพราะว่ารัฐบาลยังไม่ระบุ แต่ก็รู้ว่าดูจากข่าวรัฐบาลพยายามจะเจาะที่ใครคือท่อน้ำเลี้ยง?

“ผมคิดว่าทุกวันนี้แม้รัฐบาลจะไม่เอ่ยชื่อ แต่ทุกคนรู้ว่าเขาตั้งเป้าอยู่ประมาณสองพรรค ท่อน้ำเลี้ยงในอนาคตมันกลายเป็นท่อทางความคิด ไม่ใช่ท่อเงิน เพราะว่าสิ่งที่มันเป็น movement มันคือความคิด มีเงินไม่มีความคิดก็ไม่มี movement แต่ถ้าเห็นไม่มีเงินแต่มี movement ขึ้นได้ นั่นเพราะโลกสมัยใหม่มันสื่อสารกันในลักษณะบนเครื่องมือสมัยใหม่”

  • ดูเหมือนว่านี่คือโจทย์ใหญ่ที่เหมือนพูดเชิงวิชาการ แต่เราเพียงแค่สรุปภาพแล้วควรทำให้เห็นเชิง concept มากกว่า แปลว่าเครื่องมือสื่อสารในยุคโลกสมัยใหม่เป็นตัวแปรสำคัญมาก?

“แน่นอน communication บนเวทีโลก มันเปลี่ยนโลกมากี่ยุคแล้วล่ะ เพียงแต่เครื่องมือสื่อสารที่ออกมามันไม่ใช่ตัวมัน แต่มันคือพลังของความคิดโจทย์แบบนี้หลายๆ กลุ่มยังไม่ค่อยเข้าใจเพราะยังมี mindset ว่าเด็กออกมาประท้วง ต้องมคนเอาเงินมาให้ทำ แต่ไม่คิดบ้างว่าเด็กเขารวมเงินระดมทุนกันเอง”

  • ความหมายท่อน้ำเลี้ยงถ้ามองย้อนไปปี 53 ล่ะค่ะ

“การประท้วงช่วง 2553 มันอาจจะถูกครหาว่ามีท่อน้ำเลี้ยง เพราะเชื่อว่าชาวบ้านที่เป็นคนจนมันต้องมีคน support ไม่งั้นพวกเขาเดินทางไม่ได้ ก็โอเค ความคิดแบบนี้เป็นไปได้ แต่สำหรับผม ปี 2553 คือ mob สุดท้ายของเจนเก่า พอหลังจาก 2553 มันไม่ใช่แล้ว

อำนาจมันถูกยึดตั้งแต่ 2557 แล้วหลังจาก 2557 เราเริ่มเห็นนักศึกษาประท้วง ไม่ต้องใช้ตังค์ เช่น แค่ไปนั่งกินแฮมเอบร์เกอร์ประท้วง ค่าใช้จ่ายแค่ขนมปัง 1 ชิ้น แล้วโพสต์รูปลง แล้วมีคนกดแชร์หรือทวีตต่อไป แปลว่าการประท้วงมันเริ่มไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว”

สรุปคือ คำว่าท่อน้ำเลี้ยงในยุคก่อนมันมีความเป็นไปได้ที่จะมี ต้องยอมรับว่าคงหนีไม่พ้นกลุ่มนักการเมือง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกลุ่มทหารปัจจุบันถึงยังเชื่อว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังนักศึกษาหรือเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ ก็เพราะว่ามีที่มาแบบนี้

แต่ในทางกลับกันชุมนุมเสื้อแดงจ่ายเงินให้ชาวบ้าน แต่ถ้าชาวบ้านไม่มีใจก็ไม่มีความหมาย นั่นแสดงว่าชาวบ้านต้องมีความคิด ไม่งั้นเขาไม่มา ชาวบ้านไม่ได้โง่ ต้องคิดแบบนี้ แต่ทหารมักคิดว่าชาวบ้านไม่มีความรู้แล้วถูกท่อน้ำเลี้ยงหลอก

ท้ายที่สุดแล้วจุดเริ่มต้นของมันจริงๆ …วันนี้ต้องทำความเข้าใจว่าโลกมันเปลี่ยน…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *