ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเห็นคนเเห่เอาทองไปขายกัน วัตถุมีค่าอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลยคือ เพชร ใครๆ ก็รู้ว่าจับต้องได้เฉพาะผู้มีอันจะกิน หรือในเหล่าอาเจ๊ อาซ้อ อาม่า อากง เท่านั้น ถึงมีเงิน คนทั่วไปก็คงไม่กล้าซื้อ ในปัจจุบันการสวมใส่เพชรได้เเพร่ขยายมาสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ภาพจำของเพชรจึงไม่ได้ดูเเก่ อีกต่อไป เเต่จะซื้อเพชรเพื่อการลงทุนเหมือนทองได้หรือไม่ เรามีคำตอบจากกูรูเพชรมาฝาก
พูดคุยกับ คุณฐานิดา แซ่เฮง เจ้าของร้านเพชร Diamond Expert ในประเด็น เพชรๆ กัน
คุณฐานิดา เล่าว่า “จริงๆ เเล้ว ช่วงนี้ร้านเพชรไม่ได้ซบเซาเลย ถึงเเม้จะผ่านช่วง Lock Down ไป มาดๆเพราะ เนื่องจากสถานการณ์โลก ที่ราคาน้ำมัน เศรษฐกิจ เเละค่าเงิน ผันผวน ทำให้ราคาทองคำขึ้นอย่างต่อเนื่อง เเต่ราคาเพชรโดยปกติไม่ได้ พุ่งขึ้นสูงเร็วเท่าทองคำ รวมไปถึง งานเเต่งงานที่เริ่มจัดได้เเล้ว คู่รักต่างมองหาเเหวน ธุรกิจก็ไม่ได้ รับผลกระทบโดยตรงมากนัก เพราะส่วนใหญ่เเล้ว กลุ่มเป้าหมายในตลาด คือกลุ่มคนระดับกลาง ขึ้นไปจนถึงบน”
เเล้วถ้าช่วงราคาเพชรขึ้น ร้านเพชรได้รับผลกระทบไหม?
“โดยปกติ ราคาเพชรจะปรับตัวขึ้นลงสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพชรจะมีความเข้าใจและรับได้อยู่แล้วหากมีการปรับราคา ทำให้ไม่ส่งผลมากนักกับการซื้อขายเพชร เช่นเดียวกันกับทองคำ ที่ยิ่งขึ้น จะยิ่งมีมูลค่าทางใจต่อลูกค้ามากขึ้น ทำให้ลูกค้ายอมจ่าย เพราะมีความเชื่อและทราบดีว่า ในอนาคตราคาจะพุ่งไปไกลกว่านี้อีก เกิดเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไรในระยะยาว”
️เคยได้ยินคนบอกว่า ซื้อเพชรมีเเต่ ตก กับ ตก ถึงมีเงิน ก็คงไม่กล้าซื้อ เพชรคุ้มค่าเเก่การลงทุนไหม ?
“หากซื้อเพชรไซส์ที่ไม่ถึง 1 กะรัต ก็มีสิทธิราคาตก เนื่องจากงานเพชร เป็นงานมือที่ค่อนข้างละเอียด จะมีค่าแรงช่างทั้งงานออกแบบ งานตัวเรือน และงานฝัง ทำให้ลูกค้าอาจรู้สึกว่าราคาตกเวลาขาย เนื่องจากร้านค้าจะหักตรงส่วนนี้ไป เมื่อเทียบกับเพชรไซส์ใหญ่ ค่าแรงส่วนนี้ จะมีสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับราคา อีกทั้งยังมีการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้านิยมซื้อเก็บ หรือ เก็งกำไรในระยะยาว”
จะซื้อเพชรทั้งที ต้องดูอะไรบ้าง มาสอนวิธีเริ่มต้น สำหรับคนอยากมี
- 1. ถามคนขายให้มั่นใจก่อนอย่างเเรก เเนะนำให้ซื้อในช็อปตามห้าง หากไม่มีช็อปก็ต้องเป็น ร้านออนไลน์ที่ให้คำปรึกษาเยอะๆได้ เทคนิคเวลาซื้อออนไลน์ ต้องให้คนขายใส่ให้ดูที่นิ้ว หรือคอ ก่อน เเล้วถ่ายรูปจริงส่งมา
- 2. ดูที่กะรัตเเละ สตางค์ หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ตัง” สมมติ หากน้อยกว่าหนึ่งกะรัตส่วนใหญ่เเล้วก้อจะเป็น accessories ต่างๆ จำไว้ว่า 1 กะรัตจะเท่ากับ 100 ตัง เสมอๆ เเละหากน้อยกว่า 1 กะรัต ตังก็จะลดลงมาเรื่อยๆ เช่น 80 ตัง 60 ตัง เป็นต้น
- 3. น้ำเพชรเริ่มที่น้ำบริสุทธิ์ คือน้ำ 100 คือจะบริสุทธิ์ ไร้สี ถ้าต่ำลงมาเรื่อยๆ จะออกขาวนวล- เหลืองมากขึ้น กลุ่มเพชร Colourless ที่นิยมใช้กันคือ น้ำ 98-100 คือ D E F Colour
- 4. เวลาเลือกซื้อเเหวนเพชร ทำไมตัวเรือนแหวนเพชร ไม่เป็นทอง 96.5% เป็นตัวเรือนที่ใช้ขึ้นงานจิวเวลรี่ เนื่องจากทั้งเพชร และ พลอย ที่ฝังบนตัวเรือนมีมูลค่าสูง ทำให้ตัวเรือนทำรองรับต้องมีความคงทนแข็งแรง สามารถเกาะเพชรได้แน่นหนา ซึ่งทอง 96.5% มี%ทองที่สูง ทำให้มีความนิ่ม จึงไม่เหมาะที่จะนำมาขึ้นตัวเรือนงานเพชร ดังนั้นธุรกิจจิวเวลรี่จึงนิยมตัวเรือน 18K หรือ ทอง75% ซึ่งมีความแข็งแรง คงทนกว่านั่นเอง
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สมัย เพชรก็ยังคงเป็นสิ่งล้ำค่า จับต้องยาก ห่างไกลตัว เเต่ในปัจจุบันอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น เพชรเริ่มเข้าถึงง่ายมากขึ้น เเละคนรุ่นใหม่เริ่มชอบศึกษา หาข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง มากกว่าคนสมัยก่อน เเละเพชรก็กลายเป็นสิ่งที่วันหนึ่ง หากพวกเขา สามารถเก็บสะสมเงินได้ ก็คงซื้อไว้เป็นสมบัติสักชิ้น ในชีวิต