#TheFeatures 🤔 ไทยกำลังจะมีเรือดำน้ำเพิ่ม แล้วชาติมหาอำนาจชาติอื่น เขามีกันเท่าไรน้า???
เรารวบรวมตัวเลขเรือดำน้ำ เเละรุ่นต่างๆจาก 8 ชาติมหาอำนาจมาให้ชมกัน
อันดับ 1 🇰🇵 เกาหลีเหนือ – 83 ลำ
แม้จะครอบครองเรือดำน้ำมากที่สุดในโลกแต่เรือดำน้ำส่วนใหญ่ของเกาหลีเหนือมีการใช้งานมาอย่างยาวนานและค่อนข้างล้าสมัย
อย่างไรก็ตามกองทัพเกาหลีเหนือกำลังเร่งผลิตเรือดำน้ำรุ่น Sinpo Class เรือดำน้ำรุ่นนี้ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบดีเซลไฟฟ้า มีระยะทำการ 1,500 ไมล์ทะเล
พร้อมติดตั้งระบบจรวดนำวิถี KN – 11 พิสัย 1,300 กิโลเมตร ระยะเพียงพอที่สามารถยิงเข้ากรุงโซลของเกาหลีใต้โดยไม่ต้องออกจากท่าเรือในเกาหลีเหนือเลย
อันดับ 2 🇨🇳 จีน – 74 ลำ
พ่อค้าเรือดำรายใหญ่ มีสัญญาขายเรือดำน้ำ 3 ลำให้ไทยโดยขณะนี้กำลังต่อให้ไทย 1 ลำคาดว่าจะส่งมอบในปี 2566 และอีก 2 ลำที่ไทยเพิ่งอนุมัติไป ก็มีแผนส่งมอบให้ทันแล้วเสร็จในปี 2569
จีนมีเรือดำน้ำทันสมัยที่สุดในโลกรุ่น JIN Class ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทำให้หมดปัญหาเรื่องขีดจำกัดการเดินทาง เรือดำน้ำรุ่นนี้ติดตั้งท่อยิงจรวดนำวิถีรุ่น JL-2 มากถึง 12 ท่อ ซึ่งจรวด JL-2 ก็มีระยะการยิงสูงสุดที่ 7,200 กิโลเมตร ปัจจุบันจีนมีเรือดำน้ำรุ่นนี้ประจำการ 6 ลำ
อันดับ 3 🇺🇸 สหรัฐอเมริกา – 66 ลำ
สหรัฐฯเป็นชาติแรกของโลกที่สามารถผลิตเรือดำน้ำที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์
ปัจจุบันเรือดำน้ำที่ล้ำสมัยที่สุดของสหรัฐฯคือ Ohio Class และ SeaWolf Class โดยรุ่นแรกติดตั้งระบบยิงมิสไซล์ Trident 2 ที่มีระยะการยิงสูงสุดถึง 12,000 กิโลเมตร สำหรับรุ่น SeaWolf Class เป็นเรือดำน้ำที่ว่ากันว่าถูกตรวจจับได้ยากที่สุดในโลก
อันดับ 4 🇷🇺 รัสเซีย – 62 ลำ
รัสเซียขึ้นชื่อว่ามีเรือดำน้ำที่ทันสมัยและล้ำหน้ากว่าใครๆตั้งแต่สมัยสงครามเย็น ปัจจุบันรัสเซียยังมีแผนพัฒนาและใช้งบประมาณไปกับเรือดำน้ำมากที่สุดในโลก
โดยเรือดำน้ำที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซียคือ Borei Class ที่มีระยะการเดินเรือไม่จำกัดเนื่องจากใช้เครื่องยนต์นิวเคลียร์ ติดตั้งแท่นมิสไซล์นำวิถี 16 แท่น และท่อยิงตอปิโดอีก 6 ท่อ โดยมิสไซล์ที่ใช้เป็นรุ่น Bulava มีระยะการยิง 9,500 กิโลเมตร เรือดำน้ำรุ่นนี้ถือว่าล้ำสมัยที่สุดในโลก
อันดับ 5 🇮🇷 อิหร่าน – 34 ลำ
แม้จะมีจำนวนเรือดำน้ำมากถึง 34 ลำ แต่อิหร่านกลับมีเรือดำน้ำที่ทันสมัยเพียงลำเดียวคือ Fateh Class
เเม้จะไม่มีมิสไซล์พิสัยไกล แต่ความพิเศษของเรือดำนี้คืออิหร่านผลิตและออกแบบเอง100% ถือเป็นความก้าวหน้าของประเทศที่ไม่ใช่มหาอำนาจทางการทหาร
อันดับ 6 🇰🇷 เกาหลีใต้ – 22 ลำ
ด้วยความจำเป็นที่จะต้องป้องกันอธิปไตยของประเทศจากเกาหลีเหนือ ปัจจุบันเกาหลีใต้มีเรือดำน้ำรุ่น Jang Bogo และ Son Won Il ที่ใช้ในการลาดตระเวนและรักษาน่านน้ำของประเทศเป็นหลัก ทั้งสองรุ่นถือว่ายังล้าหลังเมื่อเทียบกับเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือ
อันดับ 7 🇯🇵 ญี่ปุ่น – 20 ลำ
ปัจจุบันญี่ปุ่นมีเรือดำน้ำรุ่น Sōryū Class ประจำการ 11 ลำ ซึ่งทั้งหมดผลิตโดย Mitsubishi และ Kawasaki โดยทั้งหมดเป็นเรือเครื่องยนต์ดีเซลไฟฟ้ามีอาวุธมิสไซล์ Harpoon ที่มีระยะยิง 90 – 280 กิโลเมตร ปัจจุบันใช้ลาดตระเวนป้องกันการรุกล้ำจากเรือรบจีน
อันดับ 8 🇮🇳 อินเดีย – 16 ลำ
จะว่าอินเดียเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไทยต้องซื้อเรือดำน้ำจากจีนก็ว่าได้ เพราะอินเดียนี่เองที่ขายเรือดำน้ำให้กับเมียนมาร์ เรือดำน้ำที่ล้ำสมัยที่สุดของอินเดียคือ Arihant Class ที่ใช้เครื่องยนต์นิวเคลียร์และมีมิสไซล์ที่ยิงได้ไกลถึง 3,000 กิโลเมตร โดยเรือดำน้ำรุ่นนี้ผลิตเองโดยอินเดีย
👉 รู้หรือไม่?
🇹🇭 เรือดำน้ำที่ไทยซื้อจากจีนนั้นเป็นรุ่น Yuan Class รุ่น s26t หรือรุ่น 039A ที่พัฒนาจากรุ่น 039 ตัวเรือมีขนาดใหญ่ถึง 77.6 เมตร กว้าง 8.4 เมตร สูง 8.2 เมตร
ด้วยขนาดที่ใหญ่ทำให้ต้องดำน้ำลึกถึง 60 เมตรเพื่อการซ่อนตัวอย่างปลอดภัย ขณะที่ความลึกของอ่าวไทยอยู่ที่ 25 – 40 เมตร
อาวุธของรุ่นนี้ที่สำคัญที่สุดคือระบบยิงมิสไซล์พิสัยไกลที่จีนติดตั้งมาให้ แต่ไม่ได้แถมลูกมิสไซล์มาให้ ถ้าต้องการใช้กองทัพไทยต้องซื้อเพิ่ม ส่วนที่แถมมาให้ก็มีเพียงตอปิโดพิฆาตเรือรบ 4 ลูก และลูกซ้อมยิงอีก 2 ลูก โดยมีแผนภารกิจหลักคือรักษาน่านน้ำอ่าวไทย