โอบาม่าชี้ สหรัฐแบ่งออกเป็นสองฝั่งเพราะความเหลื่อมล้ำ เฟคนิวส์ และโดนัล ทรัมป์
บารัค โอบาม่า อดีตประธานาธิปดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา ชี้ว่าสหรัฐอเมริกากำลังถูกแบ่งเป็นสองฝั่งนับตั้งแต่โดนัล ทรัมป์นั่งเก้าอี้ประธานาธิปดี
พร้อมเสนอว่าชัยชนะของ โจ ไบเดน ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการประสานรอยร้าวนี้เท่านั้น โอบาม่ากล่าวในการสัมภาษณ์กับ บีบีซี สื่อชื่อดังของอังกฤษว่า
“พวกเราแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน มากกว่าสมัยตอนที่ผมเป็นประธานาธิปดี หลายอย่างมาจากประธานาธิปดีคนปัจจุบันที่ เพราะเขาคิดว่ามันดีกับการเมืองแบบของเขา”
โอบาม่าอธิบายเพิ่มเติมว่า การจะสมานความแตกแยกภายในสหรัฐ อเมริกา ตอนนี้ ไม่สามารถกระทำได้โดยนักการเมืองเพียงเท่านั้น
แต่ยังต้องแก้ไขเชิงโครงสร้าง และประชาชนต้องฟังกันและกัน โดยการมองภาพความจริงก่อนจะโต้เถียงว่าจะทำอะไรต่อไป
อย่างไรก็ดี อดีตประธานาธิปดีสหรัฐกล่าวว่า เขามองเห็น “ความหวัง” ในทัศนะอันซับซ้อนของคนเจเนเรชั่นใหม่ พร้อมกับกระตุ้นให้คนวัยหนุ่มสาวสร้างความมั่นใจว่า โลกสามารถเปลี่ยนแปลงได้
และพวกเขาต้องการมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงนั้น จุดแบ่งของอเมริกาเป็นมาอย่างไรในทัศนะของโอบาม่า นอกเหนือจากการเมืองแบบทรัมป์ ที่โอบาม่ากล่าวว่าเป็นสาเหตุที่แบ่งสหรัฐอเมริกาในขณะนี้
อดีตประธานาธิปดีวัย 59 ยังกล่าวว่าอีกหนึ่งสาเหตุคือเฟคนิวส์บนโลกโซเชียล ซึ่งเป็นโลกที่ “ความจริงไม่สำคัญ” “มีคนเป็นล้านๆที่เชื่อในแนวคิดที่ว่าโจ ไบเดนเป็นนักสังคมนิยม
เชื่อว่าฮิลลารี คลินตันร่วมกับขบวนการค้ามนุษย์ ผมมองว่าเราต้องกลับไปตั้งบรรทัดฐานที่อย่างน้อยที่สุด เราจะต้องมีแนวคิดร่วมว่าอะไรจริง ก่อนที่เราจะเริ่มโต้เถียงกันว่าเราควรจะทำอะไรกับความจริงเหล่านั้น ”
โอบาม่ามองว่าถึงแม้ว่าช่วงหลายปีมานี้ สื่อเริ่มที่จะหันมาเช็คข่าวขึ้นเพื่อป้องกันการกระจายของเฟคนิวส์ แต่มันก็ยังไม่เพียงพอเพราะเขามองว่า
“ข่าวปลอมมันกระจายไปคลุมทั้งโลก ก่อนที่ข่าวจริงจะออกจากประตูไปด้วยซ้ำ”
นอกจากประเด็นเรื่องเฟคนิวส์ อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้สหรัฐแบ่งฝั่ง คือเรื่องของความเหลื่อมล้ำระหว่างคนเมืองและชนบท
