“อยากจะขอโทษไว้ตรงนี้เลย ขอโทษจากใจจริงๆ เครียดแล้วเราทำไปแบบไม่รู้ตัว ควบคุมตัวเองไม่ได้”

ประโยคสัมภาษณ์จากครูจุ๋ม ครูโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ย่านนนทบุรี ทำร้ายเด็กอนุบาล 1 ฝ่ายผู้ปกครองนั้นจะคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร วันนี้เราจะมาเปิดประเด็นถึงที่มาของเรื่องนี้

เริ่มจากมีกลุ่มผู้ปกครองของนักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของลูก เด็กหลายคนมักมีอาการผวา ไม่ร่าเริง มีรอยช้ำ หวาดกลัว

ที่สำคัญเด็กหลายคนไม่อยากไปโรงเรียน จึงทำให้ผู้ปกครองเริ่มคุยกับลูก ถามสาเหตุและพบว่าลูกถูกครูตี

ต่อมาผู้ปกครองจึงรวมตัวกันไปดูกล้องวงจรปิดและพบว่าครูจุ๋ม (ครูพี่เลี้ยง) ทำร้ายลูกของตนด้วยวิธีต่างๆเช่น จิกหัวมาโขกโต๊ะ บิดหู ผลักเด็กเข้ากับกำแพง โยนของ

ผู้ปกครองเห็นเช่นนั้นต่างก็รับไม่ได้และที่แย่ไปกว่านั้นคือขณะที่ครูจุ๋มทำร้ายเด็กมีครูอีก 3 คนอยู่ด้วย แต่กลับนิ่งเฉยกับการกระทำของครูจุ๋ม

การทำร้ายของครูจุ๋มยังอาจส่งผลไปถึงระบบในร่างกายของเด็ก ครูจุ๋มให้เด็กมีเวลากินข้าวเพียง10นาที ก็ถูกเก็บจาน ถูกสั่งห้ามกินน้ำ และถูกสั่งห้ามเข้าห้องน้ำจนทำให้เด็กหลายคน อั้นฉี่และจะต้องรีบเข้าห้องน้ำทุกครั้งที่กลับบ้าน

การกระทำครูจุ๋มไม่ใช่เพียงแผลกาย แต่ยังฝังลึกไปในจิตใจเด็ก โดยผู้ปกครองหลายคนเล่าว่า ลูกมีอาการละเมอ หวาดกลัว เด็กคนนึงถูกขังในห้องน้ำจนตอนนี้ไม่กล้าเข้าห้องน้ำคนเดียว

จากที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้ผู้ปกครองเริ่มรวมตัวกันไปที่โรงเรียนและเปิดคลิปกล้องวงจรปิดให้ฝั่งผู้บริหาร ครู และผู้ปกครองดู ครูจุ๋มจึงขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมรับ)เเต่บางรายก็มีการไปแจ้งความที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด ให้ดำเนินคดีกับครูจุ๋ม

ต่อมาก็มีสำนักข่าวนึงมาสัมภาษณ์ครูจู๋มถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ครูจุ๋มก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนสอนได้ 8 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีพฤติกรรมทำร้ายเด็กแต่สองอาทิตย์หลัง ตนเครียดด้วยหลายๆเรื่อง แม่ก็ป่วยหนัก พูดกับใครไม่ได้

แต่จริงๆแล้วไม่เหมาะสมที่จะลงกับเด็กแบบนั้น แต่สาเหตุหลายอย่างทำให้พลั้งมือ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ อยากจะขอโทษไว้ตรงนี้เลย ขอโทษจากใจจริงๆ

เครียดแล้วทำไปแบบไม่รู้ตัว ควบคุมตัวเองไม่ได้ และยังปฎิเสธเรื่องทำร้ายในห้องน้ำ มองว่าในสถานการณ์จริงไม่ได้รุนแรงจนน่ากลัวเกินไป แม้ภาพจะออกมารุนแรงก็ตาม

ทางโรงเรียนออกมาชี้แจงว่าครูจุ๋มออกมายอมรับว่ากระทำและใช้วาจาไม่เหมาะสมกับนักเรียนจริงๆ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ

ดังนั้นโรงเรียนจึงออกทันทีและจะลงโทษทางวินัยต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นลำดับ มีแนวทางแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ 2 ส่วน

เรื่องคดีความ ทางโรงเรียนจะคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครองที่จะดำเนินคดีกับครูจุ๋มและคนที่เกี่ยวข้อง

มาตราการการป้องกัน และแก้ไขปัญหา การเยียวยา ผู้ปกครองก็ได้เสนอแนวทางต่างๆเช่น การติดกล้องวงจรเพิ่ม การเปลี่ยนครูประจำชั้น มีนักจิตวิทยามาพูดคุยกับเด็ก

นอกจากนี้ทางฝั่งผู้ปกครองยังเรียกร้องให้ยึดใบประกอบวิชาชีพครู กลับพบว่า ครูจุ๋มไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูและจบการศึกษา ม.6 เท่านั้น ก่อนหน้านี้เคยเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อต่อมาได้มีโอกาสมาทำงานในโรงเรียน

จากเรื่องนี้สังคมได้ตั้งคำถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบบของโรงเรียน เหล่าบุคลากรที่เห็นเหตุการณ์ทำร้ายเด็ก แต่นิ่งเฉย

ท้ายที่สุด การที่ผู้ปกครองจ่ายค่าเทอมปีละแสน เพื่อให้ลูกได้เจอสิ่งเเวดล้อมที่ดี แต่กลับเจอเหตุการณ์แบบนี้ อะไรที่รับประกันได้ว่า ค่าเทอมสูงแล้วจะได้รับคุณภาพการศึกษาที่ดี?