คุยกับ “ไผ่ ดาวดิน” ในวันที่ต่อสู้ โดยมีประชาธิปไตยเป็นเดิมพัน

คุยกับ “ไผ่ ดาวดิน” ในวันที่ต่อสู้ โดยมีประชาธิปไตยเป็นเดิมพัน

หากจะให้ลิสต์ชื่อเยาวชนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเป็นกิจจะลักษณะในช่วง 4-5 ปีมานี้ หนึ่งในอันดับต้นๆคงหนีไม่พ้น จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ดาวดิน”

“ไผ่” จบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่ม เผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม หรือ “กลุ่มดาวดิน”

แม้ชื่อไผ่จะปรากฎในสื่อบ่อยครั้ง ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยเฉพาะหลังถูกคุมขังด้วยกฎหมายมาตรา 112 จากการแชร์บทความ “พระราชประวัติกษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย” ของบีบีซีไทย

แต่จริงๆแล้ว ไผ่เคลื่อนไหวทางการเมืองมาเกินกว่าสิบปีแล้ว โดยไผ่เล่าให้ฟังว่า ตอนเขาออกมาเคลื่อนไหวแรกๆ มีคนมาร่วมมากสุดคือ 500 คน

“เงียบเหงาครับ ไม่มีคนออกมาเท่าไร ออกมาก็โดนจับ ช่วงนั้นน่ากลัวมาก เต็มที่ตอนจัดม็อบตอนนั้นคนออกมาก็ 500 คน” ไผ่กล่าว “เราเคยคาดหวัง อยากให้มีคนออกมา แต่เราก็ผิดหวังเพราะไม่มีคนออกมากับเรา แต่เราก็ทำไปเรื่อยๆของเรา”

หลังจากถูกจองจำกว่า 2 ปี ด้วยมาตรา 112 ไผ่ถูกปล่อยตัวออกมาวันที่ 10 พ.ค. 2562 เวลากว่าสองปีที่ไผ่ถูกจองจำ กระแสการเรียกร้องประชาธิปไตยเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ

ในปัจจุบัน มีประชาชนออกมาร่วมเดินขบวนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยหลายหมื่นคน ไผ่อธิบายความรู้สึกเมื่อเห็นคนมาเข้าร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ว่าเป็น “สิ่งที่สวยงาม”

หลังจากได้รับอิสระภาพ ไผ่กลับเริ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเรื่อยมา และถูกจับอีกครั้งในวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และได้รับอนุญาติให้ประกันตัววันที่ 23 ต.ค.

เรียกได้ว่าเข้าออกคุกเป็นว่าเล่น แต่เมื่อถูกถามว่ากลัวไหมที่จะต้องกลับเข้าคุกอีก ไผ่กลับตอบว่า “ถ้ากลัวก็คงไม่ได้ทำอะไร แต่ถ้าเรากล้า เราก็เสี่ยง มันอยู่ที่ว่าเราอยากเสี่ยงเพื่ออะไรที่ดีขึ้นไหม

เพื่ออนาคตที่ดีกว่านี้ไหม ผมคิดว่ามันคุ้มกับชีวิตชีวิตหนึ่ง รู้สึกว่าไม่ได้อยู่ไปวันๆ รู้สึกว่าได้สู้เพื่ออะไรบางอย่างที่มีคุณค่า”

นอกจากเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยแล้ว ไผ่ยังมีโอกาสเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องเรื่องสิทธิ ที่ดินทำกินของชาวบ้าน โดยหนึ่งในโครงการที่เขาทำ คือการทำงานกับชาวบ้านที่จังหวัดชัยภูมิ

เพื่อคัดค้านโครงการสานพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นโครงการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ปลูกข้าวกว่าหกล้านไร่ เป็นพื้นที่ปลูกอ้อย

หลังจากต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิเสรีภาพมากว่าสิบปี ไผ่ได้เผยแพลนในอนาคตของเขาว่า

“ตอนนี้เรียนอยู่ เคลื่อนไหวอยู่ เรียนจบแล้วค่อยว่ากันอีกที ส่วนการเคลื่อนไหวก็ต้องมาดูว่าต้องเคลื่อนไหวต่อไหม อยู่แบบนี้สนุกดี ได้ทำในสิ่งที่คิดที่เชื่อ”

ตอนท้าย เขาบอกกับเราอีกว่าหน้าที่ในการรับผิดชอบเพื่อต่อสู้ให้ได้ซึ่งประชาธิปไตย ไม่ได้อยู่เเค่ ดาวดิน

วันนี้ ไผ่ไม่ได้อยุ่แค่กลุ่มดาวดิน แต่อยู่ในทุกๆกลุ่ม ชื่อปัจจุบันของเขาเลยอาจเรียกได้ว่า ไผ่ดาวดิน อันมี สามัญชน ราษฎรนี่คือบางส่วนของบทสัมภาษณ์ “ไผ่ ดาวดิน” กับทีมข่าว The Features

โดยบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม เราจะลงในรูปแบบวิดีโอเร็วๆนี้ https://www.facebook.com/thefeaturesth

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *