วงการหนังไทยทั้งหนังในอุตสาหกรรมและหนังนอกกระแสล้วนต้องผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดิทัศน์ทั้งนั้น เพราะเนื้อหาในหนังบางเรื่องอาจสื่อถึงเรื่องเพศ ศาสนา หรือแม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าเรื่องไหนไม่ล่อแหลมก็จะถูกนำไปฉาย แต่ถ้าเรื่องไหนไม่ผ่านขึ้นมา ก็ถือว่า”โดนแบน” จนต้องตัดบางฉากออก วันนี้เรามาย้อนรอยหนังไทยที่โดนแบนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกัน

1. My teacher Eats Biscuits (คนกราบหมา) หนังเรื่องนี้ถูกเขียนบทและกำกับโดยสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ อิ๋ง เค โดยใช้ทุนส่วนตัวในการสร้าง มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ลัทธิประหลาดที่ผู้คนพากันกราบไหว้หมา หนังเรื่องนี้มีกำหนดฉายในปี 2540 ที่เทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพ ครั้งที่ 1 แต่กลับมีผู้ร้องเรียนถึงเนื้อหาดูหมิ่นศาสนา จึงถูกแบนและไม่มีโอกาสฉายในไทยอีกเลย

2. Insects in the Backyard (อินเซค อิน เดอะ แบ็คยาร์ด) หนังเรื่องนี้กำกับโดย ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ หนังเป็นแนวดราม่าที่นำเสนอเรื่องราวของความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เกี่ยวกับโลกของเพศที่สาม, และโลกของเด็กที่หมกมุ่นเรื่องเซ็กส์ ซึ่งคณะกรรมการก็แบนหนังเรื่องนี้เพราะมองว่าขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม และเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดการเลียนแบบ

3. Shakespeare Must Die (เชคสเปียร์ต้องตาย) หนังเรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดยสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ อิ๋ง เค และได้รับทุนจากกองทุนไทยเข้มแข็ง กระทรวงวัฒนธรรม มีเนื้อหาอ้างอิงจากบทประพันธ์ของวิลเลียม เชคสเปียร์เรื่อง โศกนาฏกรรมของแม็คเบ็ธ (The Tragedy of Macbeth) แต่อิ๋ง เค ได้ดัดแปลงให้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองและไสยศาสตร์ ผ่านตัวละครที่มักใหญ่ใฝ่สูง งมงายในไสยศาสตร์ ผู้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นราชาโดยฆาตกรรม และมีการอ้างอิงถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา แต่ถูกแบนเพราะคณะพิจารณามองว่ามีเนื้อหานั้นก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ

4. Syndromes and a Century (แสงศตวรรษ) หนังเรื่องนี้กำกับโดยอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล หรือ เจ้ยปาล์มทองคำเรื่องนี้มีแรงบันดาลใจจากพ่อแม่ของเจ้ย ที่เกี่ยวกับ แพทย์หญิงในโรงพยาบาลชนบท และแพทย์ทหารหนุ่มในโรงพยาบาลในเมือง เรื่องนี้ แต่ในหนังมีฉากเกี่ยวกับพระสงฆ์และเรื่องเพศ คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์จึงมีเงื่อนไขให้ตัดฉากเหล่านั้นออกจึงจะสามารถฉายที่ไทยได้ แต่เจ้ยได้ตัดสินใจไม่ตัดฉากออกจึงทำให้หนังเรื่องนี้ถูกแบนในไทย

5. Arpat (อาปัติ) หนังเรื่องนี้กำกับโดย ขนิษฐา ขวัญอยู่ ถูกสร้างโดยบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ เด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตคึกคะนอง จึงถูกพ่อบังคับให้มาบวชเณรเพื่อดัดนิสัย แต่บวชอย่างไร้ศรัทธา จึงใช้ชีวิตเหมือนปกติทั่วไปแม้จะอยู่ในผ้าเหลืองและยังมีเรื่องชู้สาวอีกด้วย ด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวกับศาสนา และเพศทำให้อาบัติไม่ผ่านการพิจารณา เนื่องจากมีภาพที่รุนแรง เชิงดูหมิ่นศาสนาพุทธ โดยมีข้อตกลงคือการตัดฉากเหล่านั้นออก ต่อมาสหมงคลฟิล์มปรับปรุงแก้ไขฉากบางส่วนออกไปจนผ่านการพิจารณาและได้ฉายในเดือนตุลาคม ปี 2558