จากที่เจ้าชายแฮร์รี่ ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน(พระชายา) ได้ถอนตัวจากสมาชิกระดับสูงของอังกฤษโดยบอกเหตุผลว่าอยากทำอาชีพและหารายได้ให้มีอิสระทางการเงินด้วยตนเอง

ทำให้ส่งผลกระทบในเรื่องของรายได้ของพระองค์ใน 3 ประเด็นหลัก

1. เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่ไม่ได้เป็นผู้แทนของควีนอลิซาเบธในการทำพระราชกรณีกิจแล้วทำให้ไม่ได้รับงบจากรัฐบาลที่เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปฏิบัติพระกรณียกิจ ซึ่งส่วนนี้ที่ถือเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดของเจ้าชายแฮร์รี่

2. ในส่วนการอารักขา ที่เคยเกิดเหตุการณ์เจ้าชายแฮร์รี่ไปที่ประเทศแคนาดาได้ไม่นานนักก็มีประชาชนแคนนาดาไม่ยอมให้รัฐบาลนำเงินไปใช้อารักขา เพราะมองว่าใช้ภาษีตนในการอารักขาเจ้าชายแฮร์รี่ถือเป็นเรื่องสิ้นเปลือง ต่อมาเจ้าชายแฮร์รี่ก็ได้ย้ายไปอยุ่ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา แต่ทรัมป์ก็ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะไม่นำเงินภาษีมาอารักขาแน่นอน ด้วยเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เจ้าชายแฮร์รี่จึงออกมาบอกว่าจะเสียค่าอารักขาด้วยตนเอง

3. ในช่วงก่อนหน้าที่เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนจะถอนตัว ทั้งคู่ได้ย้ายออกจากพระราชวังเค็นซิงตัน เพื่อไปประทับที่พระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ และได้ทำการรีโนเวทโดยใช้ภาษีประชาชนประมาณ 98 ล้านบาท แต่พอไม่ได้เป็นเจ้าชายแล้วประชาชนจึงทวงภาษีตนเองคืน

ซึ่งในวันที่ 8 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา สื่ออังกฤษ ได้ รายงานว่า เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ได้ทรงคืนเงินค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทพระตำหนักฟร็อกมอร์ คอทเทจ ประมาณ 98.4 ล้านบาทแก่รัฐบาลอังกฤษแล้ว แล้วพระองค์มีรายได้จากทางไหนบ้าง

• เจ้าชายแฮร์รี่มีรายได้มาจากพระบิดาพระราชทานให้ โดยรวมๆรายได้ส่วนนี้อยู่ที่หลายล้านปอนด์ต่อปี
• มรดกจากพระมารดาที่ได้มอบไว้ให้พระองค์เองและพระเชษฐา(เจ้าชายวิลเลี่ยม)มรดกจากสมเด็จทวดจำนวนหลายล้านปอนด์
• ในส่วนของเมแกนมีรายได้จากการแสดงซีรีย์ รวม 1.5 ล่านบาทต่อตอนและยังเป็นนักออกแบบสินค้าแฟชั่นให้กับแบรนด์ดังของแคนาดา
• ทั้งคู่ยังมี ธุรกิจสินค้าแบรนด์ Royal Sussex และ ล่าสุดยังมีรายได้ที่มาจากการร่วมมือกับ เน็ตฟลิกซ์(Netflix)ในการผลิตรายการกว่า 150 ล้านดอลลาร์ หรือ 4695 ล้านบาท