หลังจากที่มีดราม่า #แบนศรีพันวา จนมีชาวเน็ตช่วยกันขุดคุ้ยถึงธุรกิจนี้แและพบประเด็นที่น่าสงสัยในเรื่องของผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือประกันสังคม จนหลายคนตั้งคำถามว่า ในช่วงโควิดที่ผ่านมาที่ประชาชนไม่ได้รับเงินเยียวยาจากประกันสังคมเพราะการขาดทุนของศรีพันวาหรือไม่ แล้วการนำเงินประชาชนไปลงทุนนั้นเกิดความเสี่ยงหรือไม่ หรือนี้คือสิ่งที่แสดงถึงความเลื่อมล้ำที่นำเงินคนธรรมดาไปอุ้มคนรวย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็ได้ออกมาชี้แจงว่าตนไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการลงทุนได้ และถึงจะมีบอร์ดบริหารประกันสังคม แต่ก็ไม่สามารถรู้วได้ว่าเอาไปลงทุนอะไร รู้แค่ว่าสามารถลงทุนกับสินทรัพย์ประเภทไหนกี่เปอร์เซ็นต์ และมีหน่วยงานที่ว่าจ้างคือ ผู้จัดการกองทุน นำเงินไปลงทุนได้ผลตอบแทนปีละ 5-6 เปอร์เซ็นต์
สำหรับประกันสังคมก็ได้ 5- 6 หมื่นล้าน ต่อปี ซึ่งจะนำเงินส่วนนี้มาจ่ายค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยการว่างงานต่างๆล่าสุดศรีพันวาก็ขาดทุนไปกว่า ร้อยล้านบาท แล้วประกันสังคมกำลังไปลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงหรือปล่าว? นายสุชาติก็ได้กล่าวว่าตั้้งแต่ลงทุนในปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ลงทุนไป 500 กว่าล้าน แต่ว่าได้ กำไร 200 กว่าล้าน ได้กำไรทุกปี ก็ยังคงไม่ได้ขาดทุน และมองว่าหากศรีพันวา ขาดทุนก็ยังมีที่ดินที่ขายได้และประกันสังคมก็ยังได้กำไรจาก 22 เปอร์เซ็นต์ที่ลงทุนไป
และเขามี การการันตีว่าจะได้รายได้เท่าไหร่ต่อปีอยู่แล้ว มองว่าไม่ได้มีความเสี่ยงและสิ่งที่หลายคนสงสัยคือความเกี่ยวข้องของประกันสังคมที่ไปถือหุ้นศรีพันวาว่าไปเกี่ยวข้องกันอย่างไร ในส่วนนี้ก็มีอาจารย์ฟาริส โยธาสมุทร อาจารย์ภาควิชาวรรณคดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊คตนเองว่า
“สิ่งที่ประกันสังคมไปถือหุ้นไม่ใช่บริษัทศรีพันวา แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวาหรือกองรีท (Real Estate Investment Trust: REIT) คือกองทุน(ทรัสต์)ที่ถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์(ที่ดิน-อาคาร)ของรร.ศรีพันวา”
ซึ่งนั้นก็หมายความว่า สิ่งที่ประกันสังคมได้คือค่าเช่าที่ศรีพันว่าต้องจ่ายที่มีความมั่นคงอยู่แล้วไม่ใช่การลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงสูงเพราะไม่ได้ถือหุ้นบริษัทโรงแรม แต่ถือหน่วยลงทุนกองอสังหานั้นเอง
