#จบที่รุ่นเรา ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มนิสิต นักศึกษาเเละเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่มีการตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น

สะท้อนถึงความหลากหลายทางความคิดที่เหมือนและแตกต่างอย่างน่าสนใจ เราจะขอไปทำความรู้จักอีกมุมมองความคิดของพวกเขา ว่า แฟลชม็อบคิดว่าทำไปได้อะไร และมีความหวังกับเเฟลชม็อบเหล่านี้ขนาดไหน

นักศึกษาที่ขึ้นปราศรัยนาย อริย์ธัช ยอดไชยเกียรติ ตัวเเทนกลุ่มนักศึกษา เล่ากับเราว่า “ถามว่าเเฟลชม็อบมันเรียกร้องอะไรไหม จริง ๆ เเฟลชม็อบมันไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย เเต่เเค่พูดปัญหาว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่

เเฟลชม็อบ มันก็คือการรวมตัวของกระบวนการนักศึกษาที่มีการพูดคุยกันว่ามันต้องทำอะไรนอกจากออกมาพูดปาว ๆ ซึ่งกระเเสนักศึกษาล่าสุด มันอาจะเป็นปี 2535 ปีนี้มัน 2563 เเล้ว มันหายไปนานมาก ดังนั้น พอนักศึกษากลับมา การตื่นตัวทางการเมืองในไทยมันเกิดหลังจากที่พวกเขาได้เลือกตั้ง หลังจากที่ประชาธิปไตบมันหายไปนาน ตอนนี้มันกลับมาบูมอีกครั้งหนึ่งเเล้ว”

ความหวังคืออะไร อะไรคือคำว่าความหวัง

“ทุกคนมันมีความหวังเเละจุดหมาย อย่างผมหวังจะให้รัฐบาลยุบสภาเเละปรับ ครม. ให้เป็นสภาที่มาจากประชาชนจริง ๆ ไม่ใช่สภาที่บิดเบี้ยวเช่นนี้ อย่างที่ทุกคนรู้กันดี ที่มาของโครงสร้าง ที่มาของ รัฐธรรมนูญ ที่มาของ สนช. สว. กกต. ที่มาของทุกสิ่งตอนนี้มันมาโดย อำนาจที่มิชอบ ดังนั้น เราควรจะล้างตรงนี้ให้หมด ล้างกระดานเพื่อเริ่มต้นกันใหม่” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ ตัวเเทนกลุ่มนักศึกษากล่าว

บทสรุป #จบที่รุ่นเรา ที่ไม่น่าจบที่รุ่นเรา

“จริง ๆ เเล้วไม่อยากให้ใช้เเฮชเเท็กคำว่า #จบที่รุ่นเรา เลยนะ ไอซ์อยากให้ใช้คำว่า #ให้มันเริ่มที่รุ่นเราดีกว่า คือรู้สึกว่าอย่าไปหวังว่ามันจะจบที่รุ่นเรา ระบบโครงสร้างมันซับซ้อนเกินกว่าที่จะคิดเเบบนั้น ไม่ใช่ว่าโครงสร้างข้างล่าง มันล้มเเล้วข้างบนมันจะสะเทือน เเต่ไม่ได้บอกว่าถ้าฐานล้มเเล้วข้างบนมันจะไม่สะเทือนนะ มันต้องใช้เวลา ” ชุติมน กฤษณปาณี ตัวเเทนกลุ่มนักศึกษา

โดยสรุปเเล้ว กลุ่มนิสิตเเละนักศึกษา เรียกร้อง 3 อย่างด้วยกัน

• 1 . การร่างรัฐธรรมนูญใหม่

• 2. การยุติบทบาทของ สว.

• 3. นายกฯออกจาตำเเหน่ง

กลุ่มนักศึกษาชี้เเจงว่า 3 สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนคนธรรมดาเรียกร้องไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ประชาชนควรจะได้อยู่เเล้ว ถึงเเม้ว่า ผลที่ตามมา หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมพูดไป จะไม่ได้รับการตอบรับที่ดีขนาดนั้น เเต่ก็สามารถสร้าง “awareness” หรือสร้างการตระหนักรู้ที่ดีในสังคมได้ เเละพวกเขายังเชื่ออีกว่า ระยะเวลาสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ประชาชนลงถนนไปเเล้ว นายกรัฐมนตรีน่าจะเห็นใจกลุ่มผู้ชุมนุมมากขึ้น เเละน่าจะได้ยินเสียงเรียกร้องมากขึ้น

การรวมพลังของ นิสิต นักศึกษา “ผมรู้สึกว่า ถ้าเราจะต้องมีดาวไฮปาร์คตลอด จะต้องมีคนขึ้นเวทีตลอด มันจะทำให้เห็นว่าม็อบมันไม่ใสสะอาด เเต่ยุคนี้มันไม่มีใครเป็นเเกนนำ มันไม่มีผลประโยชน์ นักศึกษาทุกคนมันลำบาก ประชาชนมันลำบาก ใครอึดอัดใจก็เเค่ขึ้นมาพูด เเค่นั้นเอง ผมว่าใครสักคนก็ขึ้นมาขอพูดได้ คุยประเด็นกัน ผมว่าพูดได้หมด มันเป็นปัญหาของคน ไม่ได้เป็นปัญหาของเเกนนำ” อริย์ธัช ยอดไชยเกียรติ ตัวเเทนกลุ่มนักศึกษา กลุ่มพ่อขุน ไม่เอาเผด็จการ