ข้าวสารในวันที่ไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ข้าวสารในวันที่ไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติ

📌“ข้าวสารในวันที่ไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติ”

💰💵 จากอดีตรายได้บนถนนข้าวสาร 80% มาจากชาวต่างชาติ อีก 20% มาจากคนไทย สู่ปัจจุบันที่รายได้จากชาวต่างชาติ เกือบเท่ากับ 0

👩เเอดมิน มาทำข่าวที่ถนนข้าวสารเมื่อช่วงต้นมีนาคม ก่อนประเทศ ประกาศ Lockdown บรรยากาศ ตอนนั้น กับตอนนี้ต่างกัน อย่างน่าตกใจ ร้านนวดต่างๆ ปิดไปหลายร้าน

👨คุณสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร บอกกับเราว่า สิ่งที่โดนกระทบสุดคือ “ธุรกิจและผู้ประกอบการ”

🏢ก่อนช่วงโควิดรายได้ของธุรกิจจาก 100 เปอร์เซ็นต์นั้น 80 เปอร์เซ็นต์ มาจาก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่มาพักโรงแรม ซื้อของฝาก(souvenirs) และท่องเที่ยวแถวนี้ อีก 20 เปอร์เซ็นต์ มาจากคนไทย ที่เที่ยวกลางคืน ดังนั้นจะเห็นว่ารายได้หายไป 80 เปอร์เซ็นต์

📌ปัจจัยที่มากระทบธุรกิจคือ Social Distancing , เวลาประกอบการที่ต้องปิดก่อนเที่ยงคืน , กำลังการซื้อของนักท่องเที่ยวที่ลดลง และ การที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ

📌ดังนั้นสมาคมจึงเข้ามามีบทบาท ในการให้ความรู้การทำธุรกิจในส่วนของโรงแรมและร้านค้าโรงแรม เนื่องจากการเกิดขึ้นของLow Cost airline ทำให้ช่วง 5 ปี หลังมีโรงแรม Hostel และ GuestHouse เกิดขึ้นมากถึง 1.5 ล้านห้อง ถือว่าเป็นจำนวนที่ Over Supplies

✈️และสิ่งที่รัฐบาลไม่เคยบอกคือ สนามบินสุวรรณภูมินั้นรับนักท่องเที่ยวได้แค่ 45 ล้านคนต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยกว่าจำนวนโรงแรมมาก ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหา Oversupply ขึ้น สมาคมจึงให้ความรู้กับผู้ประกอบการ ในการปรับเปลี่ยนธุรกิจใหม่ อย่างการลดค่าใช้จ่าย หรือการปรับเปลี่ยนเป็นอพาร์ทเมนต์ หรือโรงพยาบาล
ร้านค้า

📌แม้ผลตอบรับของช่วงหนึ่งเดือนหลังปลดล็อคดาวน์จะดีขึ้นแต่กำลังการซื้อของลูกค้าน้อยลงและต้องระวังเรื่อง Second wave การระบาดรอบสองของไวรัสโคโรน่า สมาคมจึงเสนอให้ผู้ประกอบการปรับสินค้าใหม่ หาสินค้ามาขายคนไทย หาวิธีให้รายได้แบบใหม่ และไม่ควรคาดหวังว่าในช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะกลับมา คาดว่านักท่องเที่ยวจะไม่ได้กลับมาจนถึงปีหน้า

📌สิ่งที่สมาคมมองว่าในอนาคตธุรกิจที่ข้าวสารจะได้เปรียบคือ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวจะมาขนาดเล็กลง (F.I.T)หรือ Free Individual Travelers หมายถึง นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักตามลำพัง ไม่ใช่กรุ๊ปทัวร์ ซึ่งย่านถนนข้าวสารจะเหมาะกับ F.I.T และ Backpackers มากกว่า

📌นอกจากนี้สมาคมยังเสนอนโยบายในการแก้ปัญหานักท่องเที่ยงลดลงแก่กรุงเทพฯ 2 ประเด็นหลัก
🎯1. จัดEvent ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว รายละเอียด จะมี 3 event ได้เเก่

– Street food Longest Table จัดโต๊ะอาหารสตรีทฟู๊ดกลางถนน และเชิญเชฟมิชิลีนต่างชาติและคนไทยมาทำอาหาร

– Awakening Bangkok Lighting ทั่วพระนคร เพื่อให้ผู้คนมาถ่ายรูป ภายใต้ concept “อะไรที่หายไปแต่คุณยังเห็นอยู่ อะไรที่อยู่คุณลืมมันไป”

– Fashion Show – จัดถ่ายทำวีดีโอและภาพถ่าย สถาปัตยกรรมย่านข้าวสาร เพื่อให้การท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย นำภาพถ่ายเหล่านี้ไปฉายในต่างประเทศ เพื่อให้เห็นมุม Unseen ข้าวสาร ตามเมืองต่างๆ

🎯2. เปลี่ยนข้าวสารให้เป็น Nightlife จริงๆ
ทุกคนจะพูดถึงข้าวสารว่าเป็น Nightlifeเพราะฉะนั้นจะปรับให้ผู้ประกอบการหันมาทำธุรกิจกลางคืน
ทำให้ข้าวสารมีหลายบรรยากาศ

📌เสียงฝากถึงรัฐบาล จากนายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร
ทางภาครัฐสามารถจัดทำประชาพิจารณ์โดยทำโหวตการเปิดประเทศหรือไม่เปิดประเทศและผลกระทบถ้าไม่เปิดประเทศ เเน่นอนจะส่งผลกระทบกับโรงเเรมและธุรกิจเสียหายแต่ถ้าเปิดประเทศจะส่งผลกระทบในเรื่องของอัตราความเสี่ยง การรับรองของโรงพยาบาล

📌ทางรัฐบาลสามารถ เลือกกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่มีความเสี่ยงต่ำ เเละสามารถควบคุมได้ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยก่อน เช่น พวกนักกีฬากอล์ฟจากญี่ปุ่นเเละเกาหลี ชอบบินมาทำงานที่ไทย เพราะกลุ่มนี้เวลามา ก็จะ อยู่เฉพาะพื้นที่ซ้อมเเต่กอล์ฟ อย่างเดียวรัฐสามารถควบคุมได้

📌ทางนายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสารยังระบุอีกว่า มองว่าอีก 2-3 ปี การท่องเที่ยวจะกลับมาเพราะว่า องค์กรการบินโลก (ICAO) คาดว่าธุรกิจการบินจะกลับมาในปี 2023 แบบ 80 เปอร์เซ็นต์ ดูจากการเช่าเครื่องบิน trafficของเครื่องบิน แต่ในปีนี้ส่วนมากเป็นการคืนเครื่องบิน เห็นได้ว่าทุกวันนี้เศรษฐกิจทั่วโลกถูกผลกระทบ

————————————————–

Note : องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( International Civil Aviation Organization – ICAO)
F.I.T หรือ Free Individual Travelers หรือ Free Independent Travelers หมายถึง นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักตามลำพัง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *