IBM แยกบริษัท เพื่อลงเล่นตลาด Hybrid Cloud

IBM แยกบริษัท เพื่อลงเล่นตลาด Hybrid Cloud

จบตำนานโมเดลธุรกิจของ บริษัท ที่มีอายุ 109 ปี ของบริษัท International Business Machines Corp หรือ IBM ที่เป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่แห่งแรกของโลกและมีคนงานมากกว่า 352,000 คน กำลังใช้ความพยายามอย่างยาวนานหลายปีในการกระจายธุรกิจ

แต่ไม่นานมานี้ ได้ออกมาประกาศว่ากำลังแยกตัวออกเป็นบริษัทมหาชน 2 แห่งเพื่อมุ่งเน้นไปที่การประมวลผลบน Cloud ที่มีอัตรากำไรที่สูงกว่า

Arvind Krishna ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ IBM ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทที่แยกออกมาคือบริษัทส่วน Managed Infrastructure Services ซึ่งมีชื่อเรียกชั่วคราวว่า NewCo ในขณะที่ธุรกิจส่วนที่เหลือจะยังคงอยู่ภายใต้บริษัท IBM ต่อไป

จุดประสงค์ของการแยกบริษัทในครั้งนี้ก็คือเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธุรกิจทั่วโลกให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยนอกจากลูกค้าที่ต้องการทักษะและความเชี่ยวชาญจากทีมงานของ IBM ในการให้บริการจะเติบโตมากขึ้นแล้ว แนวโน้มของการจัดซื้อ Application และ Infrastructure Services เองก็มีความแตกต่างหลากหลายมากขึ้นด้วย

James Kavanaugh ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกล่าวว่าการก่อตั้ง NewCo ครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงาน

โดยมีส่วนที่ใช้ในการจ้างงานพนักงานใหม่ถึง 90,000 คน เพื่อรองรับลูกค้า 4,600 รายใน 115 ประเทศและมีงานในมือ 6 หมื่นล้านดอลลาร์

นักลงทุนประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวของ Arvind Krishna ที่อยู่เบื้องหลังการเข้าซื้อกิจการ Red Hat ของบริษัทระบบ Cloud ของ IBM มูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วส่งผลให้หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 7%Red Hat OpenShift คือผู้ให้บริการโทรคมนาคม (Telco)

จะสามารถควบคุมฟังก์ชันเน็ตเวิร์กทั้งแบบเสมือนจริง (Virtual) และแบบคอนเทนเนอร์ (Container) ภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งจะสอดคล้องกับระบบที่ IBM กำลังพัฒนาอยู่

ต่อมา Krishna ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 90 เราขายเครือข่าย ย้อนกลับไปในยุค 2000 เราขาย PC เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว เราเลิกขาย semiconductor เพราะทั้งหมดนี้ไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมเมื่อเรามีเทคโลโนยีใหม่” เขามองว่ากลุ่ม

ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ Hybrid Cloud และ AI จะคิดเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของ บริษัท หลังจากการแยกตัวออกไปบริษัทยังกล่าวอีกว่าคาดว่าจะมีรายรับในไตรมาสสามที่ 17.6 พันล้านดอลลาร์และกำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้วที่ 2.58 ดอลลาร์

คงไม่ง่ายเลยสำหรับการเปลี่ยนแปลงการบริหารงานในบริษัทที่แยกออกไป แต่ก็ดูเหมือนว่าบริษัทในส่วน Managed Infrastructure Services หรือ NewCo นี้ จะก้าวล้ำยุคสมัยและพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับผู้ใช้ทั่วโลกได้

อ้างอิง : Reuters

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *