ผ่านมา 1 ปีสังหารหมู่ #เรื่องที่คนทั่วไปไม่อาจรู้ กับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ จ่าคลั่งสังเวย 30 ศพ กลางห่างดัง ประชาชนรับรู้การเปลี่ยนเเปลงอะไรบ้าง นอกจากน้ำตาชายชาติทหารของอดีต ผบ.ทบ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ เเละคำสัญญาปฎิรูปกองทัพ ในวันเเถลงข่าว วันนี้ไปถึงไหนเเล้ว
ปัญหาในกองทัพ ทั้งการกินหัวคิว เเละการคอรัปชั่นต่างๆ จนนำมาซึ่งความกดดัน ความอัดอั้นตันใจ ประกอบกับโรคซึมเศร้า ของทหารชั้นผู้น้อยที่ใฝ่ฝันอยากจะมีบ้านสักหลังในชีวิต อันเป็นที่มาซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว จะว่าไปจริงๆเเล้ว คนทั่วไปก็ยากจะตรวจสอบเเละรู้ถึงปัญหาที่เเท้จริง ตอนนี้การเเก้ปัญหาคืบหน้าไปถึงไหนเเล้ว คนทั่วไปมิอาจรู้
ทหารชั้นผู้น้อยบอกเล่าปัญหาผ่านการเขียนจดหมายถึงชั้นผู้ใหญ่ได้เเล้วนะ นับตั้งเเต่เหตุการณ์นั้น อดีตผบ.ทบ. พล.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ รีบรุดออกมาบอกว่า
ราชการชั้นผู้น้อยเขียนจดหมายถึงราชการชั้นผู้ใหญ่ในองค์กรได้ เพื่อเล่าถึงปัญหาที่พวกเขาเจอ เเล้วจะได้รับการพิจารณาเป็นเรื่องๆไป เเต่สิ่งที่ทหารชั้นผู้น้อยเผชิญนั้น ได้รับการเเก้ไขมากน้อยเพียงใด? อะไรคือสิ่งการันตรี ที่พวกเขาจะได้รับการเหลียวเเล คนทั่วไปมิอาจรับรู้
การเก็บรักษาอาวุธรัดกุมกว่าเดิมไหม อย่างไร? ในคลังเเสงทั่วประเทศ มีการเก็บรักษาที่ดีกว่าการใช้เเม่กุญเเจ หรือมีการพัฒนาไปถึงไหนเเล้ว มีระบบการป้องกันที่เข้มงวด หรือมีโปรเเกรมรักษาความปลอดภัยใดๆหรือไม่ คนทั่วไปก็ยังมิอาจรู้
คำถามต่อมาคือ จะเกิดเหตุการณ์เเบบนี้อีกไหม ไม่มีสิ่งใดเป็นตัวการันตีได้เลย ที่ผ่านมาการเเก้ไข ประชาชนคนนอกมิอาจรับรู้ ว่าปัญหาได้ถูกเเก้ด้วยวิธีใด
มีการทำรายงานถึงประชาชนเป็น ดีเวลล็อปเม็นต์รีพอร์ท (Development Report) คล้ายกับองค์กรเอกชน เวลาเจอกับสถานการณ์วิกฤต หรือที่เรียกว่า Crisis Management ในมาตรการเเก้ไขต่างๆหรือไม่ ว่าบรรลุไปถึงไหนเเล้ว
เเต่สิ่งหนึ่งที่กองทัพสามารถทำให้ประชาชนมั่นใจได้ ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจากคนในกองทัพอีก ก็ต้องผ่านวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพ ลดความเหลื่อมล้ำในองค์กร สร้างระบบที่สามารถตรวจสอบได้ เเละต้องออกมาชี้เเจง พูดอย่างตรงไปตรงมา ให้ประชาชนมั่นใจเเละพร้อมผ่านปัญหาเเละหาเเนวทางเเก้ไขนี้ไปด้วยกัน
บทวิเคราะห์ทีมบรรณาธิการ The Features