ทำไมคนที่มีฐานะ ในเมียนมา ถึงออกมาต่อสู้พร้อมๆกับคนอื่น ไม่เป็น” อิกนอร์เร๊นซ์” ? หรือไม่สนใจทางการเมือง
เราถามคำถามนี้ กับอีลีท ท่านหนึ่งในเมียนมาที่ไม่ขอเปิดเผยตัวตน เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย
“มันไม่ใช่ว่า คนจะรวย/จน จะสนใจ/ไม่สนใจการเมือง สุดท้าย การเมืองมันคือเรื่องปากท้อง เเละความเป็นอยู่ของคนทั้งประเทศ เราจึงร่วมเเรงร่วมใจกันต่อสู้ ไม่มีใคร อิกนอร์เร๊นซ์ หรือไม่สนใจการเมืองในเมียนมาเลย”
ธาน ธาน นามสมมติ เธอจบการศึกษาปริญญาโทจากต่างประเทศ ได้รับการศึกษาที่ดีมาโดยตลอด ในช่วงที่เธอเรียนจบปริญญาโท เธอก็ตัดสินใจกลับเมียนมา เพื่อที่เธอจะกลับมาทำงานในบริษัทเอกชนเเละช่วยพัฒนาเมียนมาให้ไปได้ไกลกว่าเดิมได้
ซึ่งในตอนนั้นพรรค NLD ของอองซานซูจี เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นรัฐบาล เเละก็เป็นสัญญาณที่ดีมาก ที่ประเทศจะไม่ต้องตกอยู่ในระบอบทหารอีก เธอบอกกับเราว่าช่วงเวลานั้นเธอตื่นเต้นมาก เเละรอคอยที่จะได้กลับประเทศ
เเต่เเล้วความฝันของเธอ เเละชาวเมียนมา ต้องเเตกสลาย เมื่อถูกพรากประชาธิปไตยไปจากอ้อมอก เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในยุคโควิด19 ที่เอาเข้าจริงก็ประสบปัญหานี้กันทั่วโลก ก็ยิ่งเพิ่มความโกรธ ความเกลียดชัง ที่มีต่อกองทัพ ให้กับชาวเมียนมาอย่างมหาศาล จนประชาชนลุกฮือกันออกมา นับตั้งเเต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ธาน ธานจะออกจากบ้านเวลา 9 โมงเช้าของทุกๆวัน ซึ่งเป็นเวลานัดหมายการชุมนุม เราถามเธอว่า ทำไมเธอถึงต้องออกมาร่วมชุมนุมทุกวัน โดยที่เธอ ไม่ได้เดือดร้อนหรืออาจจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยมาก
เธอบอกกับเราว่าเพราะ ” ฉันเห็นความลำบากของผู้คนที่ตั้งเเต่ ปี 1988 ที่อำนาจประชาชน ทุกริดรอน ตั้งเเต่นั้นมา เราเเทบไม่เคยมีประชาธิปไตยเลย กองทัพ เเละเหล่าทหารกลับรวยเอา รวยเอา ใช้จ่ายได้เต็มที่ประชาชนไร้อำนาจตรวจสอบ นานนับ 10 10 ปี
เเต่ในขณะที่คนในประเทศ ต้องดิ้นรน ปากกัดตีนทีบ บ้างก็หางานไม่ได้ในเมียนมา ต้องไปเป็นเเรงงานในต่างประเทศ อย่างเช่นมาที่ประเทศไทย ก็เพราะที่เมียนมาประเทศของพวกเรามีความเป็นอยู่ลำบาก เราเห็นการเอาเปรียบจากกองทัพ เเละเราก็เชื่อว่า ในการยึดอำนาจครั้งนี้กองทัพ ไม่อยู่เพียง 1 ปี ตามสัญญาเเน่นอน
ฉะนั้น การต่อสู้ครั้งนี้ พวกเราทุกชนชั้นในพม่า ร่วมเเรงร่วมใจกัน ดารานักเเสดง บุคลากรทาง การเเพทย์ ข้าราขการบางส่วน นักเรียน นักศึกษาคนทุกกลุ่มไม่อยากให้ประเทศกลับไปจุดเดิม ณ เวลานี้ เเถบไม่มีใคร เป็นคน อิกนอร์เรนซ์ ในพม่าเลย
ซึ่งก็หมายความว่าถ้ารุ่นพวกเรา มีลูก ลูกๆ ของเราก็ต้องเกิดมาท่ามกลาง สังคมที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยมันไม่ใช่ว่า คนจะรวยหรือจน หรือจะสนใจ หรือไม่สนใจการเมือง
สุดท้าย การเมืองมันคือเรื่องปากท้อง เเละความเป็นอยู่ของคนทั้งประเทศ เราจึงร่วมเเรงร่วมใจกันต่อสู้ ไม่มีใคร อิกนอร์เร๊นซ์ หรือไม่สนใจการเมืองในเมียนมาเลย
ธาน ธาน (นามสมมติ) หญิงสาวชาวเมียนมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว The Features
ขอบคุณภาพจาก Mint
