สหรัฐอเมริกาเตรียมกระจายวัคซีนต้านโควิตไปทั่วประเทศและเริ่มใช้ทันที ซึ่งวัคซีนต้านโควิดนี้เป็น วัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และบริษัทไบโอเอ็นเทค (BioNTech) โรเบิร์ต อาร์. เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค
ระบุว่า วัคซีนสามารถเริ่มใช้งานได้เร็วสุดคือในวันนี้ (14 ธันวาคม) โดยจะเริ่มใช้กับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป วัคซีนจะถูกกระจายจากสถานที่ผลิตในรัฐมิชิแกนไปสู่ทั่วประเทศซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯตั้งเป้าแจกจ่ายวัคซีนได้ 40 ล้านชิ้นก่อนสิ้นปีนี้
ตามด้วยวัคซีนจำนวน 50-80 ล้านชิ้น ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปีหน้า และหวังว่าจะแจกจ่ายวัคซีนได้กว่า 100 ล้านชิ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564
นอกจากนั้นยังมีวัคซีนที่ผลิตจากบริษัทโมเดอร์นาที่จะเข้ามาเสริมอีก 200 ล้านชิ้นก่อนเดือนมิถุนายน แต่ยังคงรอการอนุมัติจากทางการ ประสิทธิภาพวัคซีน
วัคซีนที่ร่วมผลิตโดยริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอ็นเทคเป็นวัคซีนประเภทใหม่ที่เรียกว่า mRNA วัคซีน ซึ่งจะใช้รหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ซึ่งมีประสิทธิภาพการป้องกันโควิด 95% โดยจะมีการให้วีคซีนสองครั้ง ทิ้งช่วง 21 วัน การฉีดครั้งที่สองเป็นตัวกระตุ้น และวัคซีนจะให้ประสิทธิภาพสูงสุด 7 วันหลังวัคซีนครั้งที่สอง มีวัคซีน
แต่ยังต้องเฝ้าระวัง แม้จะมีข่าวดีที่วัคซีนได้รับการอนุมัติและเริ่มแจกจ่ายไปทั่วประเทศ แต่ขณะนี้วัคซีนยังกระจายไม่ทั่วถึง ยังคงมีการคาดการณ์ว่าจะมีตัวเลขติดเชื้อสูงขึ้นอีก
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าที่ประชาชนเดินทางกลับบ้านส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมาโดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 210,764 ราย และเฉพาะวันเสาร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากโควิดทั้งหมด 3,309
รายปัจจุบันสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อสูงที่สุดในโลก ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อกว่า 16 ล้านคน และเสียชีวิตแล้วเกือบสามแสนคน
อ้างอิง:https://www.bbc.com/news/world-us-canada-55289726https://edition.cnn.com/…/us-coronavirus-sunday/index.htmlhttps://www.nytimes.com/…/us/coronavirus-us-cases.html