อินเดียถือเป็นเป็นประเทศใหญ่อันดับ 2 ของเอเชียรองมาจากจีน ด้วยความที่ประชากรน้อยกว่าและขนาดเศรษฐกิจที่เล็กกว่า ทำให้อินเดียต้องพัฒนาระบบการป้องกันทางทหารมากขึ้น
อินเดียได้เพิ่มขีดความสามารถในการทำสงครามต่อต้านเรือดำน้ำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโดยได้รับเครื่องบินที่ล้ำสมัยเช่นเครื่องบินลาดตระเวนโบอิ้ง P-8 ที่ผลิตในสหรัฐฯและเฮลิคอปเตอร์ MH-60R Seahawk
เครื่องบินเหล่านั้นสามารถตรวจจับเรือดำน้ำของศัตรูที่ปฏิบัติการอยู่ไกลจากเรือรบของอินเดียที่ติดอาวุธด้วยระบบ SMART และส่งข้อมูลการกำหนดเป้าหมายกลับไปยังเรือเหล่านั้น
ซึ่งจะช่วยขยายขอบเขตของเรืออินเดีย แต่ถ้าลองมาวิเคราะห์แล้วก็ยังไม่สามารถสู้กับจีนได้ อินเดียจึงไม่หยุดพัฒนาอาวุธจนมีการทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่
ในวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา Rajnath Singh รัฐมนตรี กระทรวงกลาโหมของอินเดีย กล่าวว่า การเปิดตัวการสาธิตครั้งนี้มีความสำคัญในการสร้างขีดความสามารถในการทำสงครามต่อต้านเรือดำน้ำได้
และรวมไปถึงการบินด้วยขีปนาวุธจนถึงระยะและระดับความสูง การปล่อยตอร์ปิโด และการปรับใช้กลไกลดความเร็ว (VRM) ซึ่งการทดสอบเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้เป็นระบบ SMART (Supersonic Missile Assisted Release of Torpedo) จากเกาะวีลเลอร์นอกชายฝั่งรัฐโอดิชาของอินเดีย ที่บรรทุกตอร์ปิโดที่ใช้แบตเตอรี่ซึ่งมีหัวรบ 110 ปอนด์ (50 กิโลกรัม) และระยะทางประมาณ 12.5 ไมล์ (20 กิโลเมตร)
สามารถนำมันเข้าใกล้เป้าหมายในขยายระยะออกไปมากกว่า 400 ไมล์ (643 กิโลเมตร) ด้วยความเร็วเสียงถึง 3 เท่า และการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงช่วยขยายระยะของตอร์ปิโดให้ไกลเกินกว่าพารามิเตอร์ปกติ
ซึ่งในความเป็นจริง ประเทศอื่น ๆ รวมถึงรัสเซียสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นมีขีปนาวุธหรือจรวดที่สามารถบรรทุกตอร์ปิโดน้ำหนักเบาได้ แต่ไม่มีใครเข้าใกล้ระยะนี้ได้
ความสามารถดังกล่าวอาจมีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนขยายการแสดงตนในมหาสมุทรอินเดีย ปักกิ่งได้สร้างกองเรือดำน้ำที่ทันสมัยจำนวน 60 ลำ
นอกจากนี้กองทัพจีนได้เริ่มการแสดงกำลังทางทหารจากการที่กองทัพเรือของจีนเข้าถึงท่าเรือรอบมหาสมุทรอินเดียรวมถึงการสร้างฐานทัพในต่างประเทศแห่งแรกในจิบูตีบนคาบสมุทรโซมาลี (Horn of Africa)
การแข่งขันระหว่างอินเดียและจีนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาหลังจากการต่อสู้กันอย่างดุเดือดซึ่งเกี่ยวข้องกับการสู้รบแบบประชิดตัวระหว่างกองกำลังของพวกเขาตามแนวชายแดนในเทือกเขาหิมาลัยเมื่อต้นปีนี้
การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ก็ถือเป็นความสำเร็จของอินเดียที่ทั่วโลกต้องจับตามองโดยเฉพาะจีน ในส่วนของประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาหรือรัสเซีย ก็คงไม่นิ่งเฉยต่ออาวุธทางการทหารของตนอย่างแน่นอน
อ้างอิง : CNN