ข่าวการทำความผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์ไม่ว่าจะลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ นั้นมีให้เห็นกันบ่อยครั้งแต่การปล้นทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงนั้นไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไหร่

เพราะทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงนั้นย่อมอยู่ในที่ๆมีต้องมีระบบความปลอดภัยสูง ที่ยากต่อการปล้น แต่เมื่อไม่นานมานี้มีการปล้นของสมาชิกแก๊งชาวโรมาเนีย 12 คน

ที่บินเข้าและออกจากสหราชอาณาจักรเพื่อลักทรัพย์มูลค่าสูงในสหราชอาณาจักรรวมกว่า 5.3 ล้านดอลลาร์โดยผ่านเซนเซอร์ตำรวจ แล้วพวกเขาทำอย่างไรในการปล้นครั้งนี้ ?

เริ่มจากในปี 2017 กลุ่มชาวโรมาเนีย 4 คน บุกค้นโกดังและคลังขนส่งสินค้าโดยเลี่ยงสัญญาณเพื่อขโมยหนังสือหายาก คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไฟฟ้า

จากนั้นบินออกนอกประเทศในขณะที่สมาชิกคนอื่น ๆ ในแก๊งขนสินค้าออกไป มีการออกมาเปิดเผยว่า ทรัพย์ที่ถูกขโมยคือหนังสือหายากของนักวิทยาศาสตร์เซอร์ไอแซกนิวตันและฟรานซิสโกโกยา(จิตรกรชาวสเปน) ในศตวรรษที่ 18

สิ่งของเหล่านี้ถูกจัดเก็บไว้ในเมืองลูตัน หลังจากถูกส่งจากอิตาลีและเยอรมนีและอยู่ระหว่างการติดตามเพื่อส่งไปยังงานหนังสือในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการประเมินค่าทรัพย์ที่ถูกปล้นถึง 5.3 ล้านดอลลาร์แล้วพวกเขาเลี่ยงสัญญาณเตือนอย่างไร ?

ในการบุกค้นโกดังและคลังขนส่งสินค้า พวกเขาเจาะรูในรั้วรอบโกดัง และเจาะรูบนหลังคาเพื่อเลี่ยงสัญญาณเตือน เป็นการปรับขนาดหลังคาและผนัง

โดยใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงต่อมากลุ่มชาวโรมาเนียถูกจับกุมและถูกตัดสินจำคุกระหว่าง 3-5 ปี โดยปฏิบัติการร่วมของตำรวจที่เกี่ยวข้อง กับสกอตแลนด์ยาร์ดนักสืบชาวโรมาเนียและทหารของอิตาลี

ปฏิบัติการเฝ้าระวังของตำรวจ 6 เดือนทำให้มีการจับกุมหลายครั้งใน 45 แห่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่าแก๊งนี้เชื่อมโยงกับครอบครัวชาวโรมาเนียที่มีชื่อเสียงหลายครอบครัว

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาชญากรรมแคปมารูซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของโรมาเนียและมองว่าแก๊งนี้มีเป้าหมายที่ทำลายโกดังทั่วประเทศ

ทำให้เกิดความเสียหายของเงินจำนวนมากและพวกเขาไม่ได้คำนึงถึงเหยื่อเลยข่าวนี้ทำให้หลายบริษัทในหลายประเทศต้องคำนึงถึงระบบความปลอดภัยมากขึ้น

และไม่ควรประมาทต่ออาชญากร เพื่อไม่ให้ใครเป็นเหยื่อต่อการปล้น เราไม่มีทางทราบเลยว่าพวกเขากำลังวางแผนปล้นที่ไหน เ

ราจะเสียอะไรไปบ้าง อย่างเช่นเหตุการณ์ที่นี้เราเกือบเสียคุณค่าการค้นพบในหลักฐานในประวัติศาสตร์ไป

อ้างอิง : Fox News